สาวฝรั่งอึ้งแรง ทำไมคนไทยจอดรถ "ถอยเข้าซอง" กันเป็นปกติ ทั้งที่คนต่างประเทศไม่ทำกัน!

คอมเมนต์:

สรุปแล้ว #ถอยเข้า หรือ #เอาหน้าเข้า กันนะ . ..ส่วนตัวแอดถอยเข้าง่ายกว่าเอาหน้าเข้า เอาหน้าเข้าแล้วกะไม่ค่อยถูก 5555#จอดรถ #ถอยเข้าซอง

    ทำเอาฝรั่งสาวแปลกใจ จนถึงขั้นโพสต์คลิปลง TikTok เลยทีเดียว เมื่อเธอนั้นได้ถ่ายภาพลานจอดรถในห้างสรรพสินค้าแห่งหนึ่ง เมื่อรถทุกคันถอยหลังเข้าซอง จอดเรียงกันอย่างเป็นระเบียบเรียบร้อย ซึ่งคนไทยทำกันเป็นเรื่องปกติ แต่ต่างประเทศมองเป็นเรื่องยาก เพราะหลายคนทำไม่เป็น

    โดยสาวอเมริกัน เจ้าของบัญชี TikTok @falangkeenok เธอได้ถ่ายคลิปประสบการณ์ชีวิต ของการมาอยู่เมืองไทยและการมาเรียนที่กรุงเทพฯ โดยเมื่อไม่กี่วันที่ผ่านมา เธอก็ได้โพสต์คลิปสั้นๆ ซึ่งเป็นภาพการจอดรถของคนไทยในห้างสรรพสินค้า ซึ่งทุกคันจอดแบบเอาท้ายเข้าและเอาหน้ารถออก พร้อมกับข้อความว่า…

 

Sponsored Ad

 

    "someone said thai people park like this and now i can't un-see it" (มีคนเคยบอกว่า คนไทยชอบจอดรถแบบนี้ และตอนนี้ฉันก็สามารถลืมภาพนี้ลงได้เลย)

    ซึ่งงานนี้หลังจากที่เธอได้โพสต์คลิปออกไป ก็ทำเอาชาวเน็ตหลายคนงงตามมองว่า มันแปลก/ประหลาดตรงไหน? ประเทศอื่นไม่จอดแบบนี้กันเหรอ?     

 

Sponsored Ad

 

    ทำให้เจ้าของคลิปต้องเข้ามาคอมเมนต์อธิบายว่า สำหรับเธอถือเป็นเรื่องแปลกที่ทุกคน (คนไทย) ทำเหมือนกันหมด เพราะในต่างประเทศการจอดรถแบบถอยหลังเข้า มองเป็นเรื่องยาก หลายคนทำไม่เป็น แต่คนไทยจอดแบบถอยเข้าซองกันได้ทุกคนเลย

 

Sponsored Ad

 

    ซึ่งงานนี้ก็ได้มีชาวเน็ตบางคอมเมนต์ก็เข้ามาสนับสนุนว่า ต่างประเทศไม่ค่อยจอดรถกันแบบนี้จริงๆ โดยมีชาวเน็ตบางรายเข้ามาอธิบายเพิ่มเติมว่า ต่างประเทศจอดรถแบบเอาหัวเข้า เพื่อสะดวกต่อการอ่านทะเบียนรถ เพื่อติดตามคนร้าย ซึ่งในบางประเทศมีป้ายทะเบียนรถเพียงด้านหลังเท่านั้น แต่คนไทยเลือกที่จะเอาหัวออก เพื่อความสะดวกในการขับรถเข้า-ออกแทน 

ตัวอย่างภาพการจอดรถ ในต่างประเทศ

.

 

Sponsored Ad

 

     อย่างประเทศสหรัฐฯ อังกฤษ และอีกหลายประเทศ หรือแม้แต่ญี่ปุ่น ถ้าจอดใกล้อาคาร ให้จอดเอาหัวเข้าหาอาคารเสมอ เพราะจะได้ไม่ปล่อยไอเสียเข้าไปในอาคารอีกด้วย

ความเห็นจากชาวเน็ต

 

Sponsored Ad

 

.

.

.

ชมคลิป

@falangkeenok

HOW?!?? everyone ?????

♬ original sound - Guava🤧

คลิปเปิดไม่ออก >>> กดตรงนี้ คลิก <<<

ที่มา : TikTok @falangkeenok

บทความที่คุณอาจสนใจ