สรรพสิ่งทุกอย่างล้วนต้องเปลี่ยนไปตามกาลเวลาอันควรเป็น แม้ว่าพวกเราจะรู้หลักสัจธรรมนี้ แต่หลายคนก็ไม่ได้ตระหนักถึงความสำคัญต่อสิ่งที่เรามี จะมารู้ว่ามันมีค่าอีกที่ก็ตอนที่เราได้เสียมันไปแล้วตลอดกาล

    Tom Booth ศิลปินจากฟิลาเดลเฟีย ประเทศสหรัฐอเมริกา เขาเป็นนักวาดภาพประกอบ และเป็นผู้กำกับศิลป์ที่มีผลงานเป็นที่ยอมรับในวงการศิลปะ เขายังได้มีการประพันธ์ผลงานที่สร้างชื่อเสียงให้จนเป็นที่รู้จัก มากมายอาทิเช่น  "This Is Christmas", "Day at the Beach" และ "Don’t Blink!"

    หนึ่งในผลงานที่น่าจดจำของเขา คือเรื่องราวของช่างไม้ที่ได้สูญเสียภรรยาไปตลอดชีวิต เขาคิดถึงเธอมาก เขาจึงได้พยายามที่จะแกะสลักไม้เพื่อใช้เป็นตัวแทนของคนที่เขารัก 

    เขาสร้างงานไม้แกะสลักที่ใส่ความรู้สึกลงไปในชิ้นงาน ทั้งความเศร้าและความคิดถึง

    มันเป็นการแกะสลักตามท่วงท่า และอริยาบทของภรรยาของเขา

    เมื่อเขาได้ลงมือแกะสลักชิ้นงานนั้นเสร็จก็จะเอากับไปที่บ้าน เสมือนว่าเขาได้กลับบ้านพร้อมกับภรรยา

    และตอนนี้เขาได้สร้างโปรเจ็กต์ล่าสุด ของเขาด้วยการวาดภาพประกอบ เพื่อบอกเล่าเรื่องราวเกี่ยวกับความรัก ทำให้คุณได้กลับไปคิดถึงบางสิ่งที่เคยหายไป

    แต่สิ่งหนึ่งไม่สามารถแกะสลักได้จากไม้ นั้นก็คือ ความรู้สึกที่อยู่ในใจของช่างไม้

    ไม่ว่าจะผ่านไปกี่ฤดู ผ่านไปกี่ปี เขาก็ยังทำแบบนั้นตลอด

    ไม้แกะสลักเป็นตัวแทนความคิดถึง ที่เขาพอจะทำขึ้นมาได้

    โดยภาพประกอบทั้งหมดมันเกี่ยวกับช่างไม้ที่ไม่สามารถละทิ้งคนที่เขารักได้ ช่างไม้ผู้น่าสงสารยังคงแกะสลักเธอด้วยไม้ เพื่อให้ความทรงจำของเธอยังมีชีวิตอยู่จนกระทั่งในที่สุดเขาก็สามารถโอบกอดเธอไว้ได้

    มันไม่ใช่เรื่องง่ายที่เราจะลืมใครสักคน เขายังอยากบอกคำว่า “รัก” ให้เธอได้ยิน ได้ฟังเสมอทุกวัน 

    สัมผัสที่อบอุ่นจากมือของใครคนหนึ่งที่ในวันนี้มันไม่มีอีกแล้ว

    แต่มันจะอยู่ในความทรงจำของอีกคนตลอดไป 

    แด่หญิงสาวที่เขารักจนหมดใจ

    เธอจะอยู่ในอ้อมกอดของฉันตราบนานเท่านาน....

    ทอม เริ่มฝึกวาดรูปเมื่ออายุได้เพียงแค่ 5-6 ปี โดยในช่วงแรกเขาได้ใช้วิธีในการลอกผลงานจากรุ่นพี่ เพื่อเป็นแนวทางในการพัฒนาฝีมือของเขา จนกระทั้งเขาเข้าไปเรียนที่วิทยาลัย เขาจึงได้รับเกียรติให้ทำการ์ตูนสำหรับกระดาษที่วิทยาลัยของเขาด้วย

    นี้เป็นผลงานเพียงแค่บางส่วนที่ ทอมได้เปิดเผยให้แฟนคลับของเขาได้เห็นผลงานผ่านช่องที่ IG,twitter

ที่มา : boMb01,baosamong

แปลและเรียบเรียงโดย LIEKR