สื่อข่าวต่างประเทศ ได้มีการเผยแพร่เรื่องราวสุดประหลาดของหญิงสาวชาวจีนรายหนึ่ง ซึ่งเธอนั้นอ้างว่า เธอนั้นไม่ได้นอนมาเกือบ 4 ทศวรรษแล้ว และไม่เคยรู้สึก เหนื่อยหรือง่วง เลยแม้แต่น้อย

    สำหรับมนุษย์ทั่วไปก็อาจจะเคยผ่านชีวิตที่ต้อง ผ่านประสบการณ์อดหลับ-อดนอนกันมาบ้าง ซึ่งคนทั่วๆไปอาจจะฝืนร่างกาย 1 คืน 2 คืน หรืออย่างมากก็ 3 คืน เพราะร่างกายของมนุษย์เรามีขีดจำกัด ซึ่งก่อนหน้านี้ได้มีเจ้าของสถิติคนแรกของ "การไม่หลับ" ไม่นอนนานที่สุดคือ Toimi Soini จากฟินแลนด์ ที่ไม่ได้นอนนานสุดถึง 276 ชั่วโมงหรือประมาณ 11 วันครึ่ง

    สถิติดังกล่าวก็ดูธรรมดาไปเลย เมื่อเทียบกับ หลี่ จ้านอิง (Li Zhanying) สาววัย 40 กว่าผู้อาศัยอยู่ในมณฑลเหอหนาน ประเทศจีน ที่ได้อ้างว่าเธอนั้นไม่ได้นอนมานานกว่า 40 ปีแล้ว ได้คำอ้างดังกล่าวได้รับการยืนยันโดยสามีและเพื่อนบ้านของเธอเองว่า เธอนั้นไม่เคยหลับและตื่นอยู่ตลอด 24 ชั่วโมง

    ทั้งนี้เพื่อนๆรวมถึงสามีของเธอต่างข้องใจเกี่ยวกับการ "นอนหลับ" ของเธอ จึงได้ลองพิสูจน์ข้อเท็จจริงด้วยสารพัดวิธี ทั้งนัดเธอเล่นไพ่นกกระจอกกลางดึก พาไปกินเลี้ยง แต่สุดท้ายทุกคนก็ไม่อาจทนความง่วงได้ ก่อนที่จะต้องยอมแพ้ หนีกลับบ้านกันหมด ไม่ก็ผล็อยหลับไปคาวงไพ่ ในขณะที่เธอยังคงตื่นอยู่

    ซึ่งข้อเท็จจริงนี้ได้รับการยืนยันจากสามีของเธอ และเพื่อนบ้านที่อาศัยอยู่ในละแวกเดียวกัน ก็เคยไปทำการทดสอบแล้ว แต่ก็ไม่เคยจับได้ แต่ก็ไม่สามารถยืนยันได้ว่าเธอหลับจริงๆ หรือเปล่า

    โดย นางหลี่เองก็ได้เปิดเผยว่า ตั้งแต่จำความได้ ครั้งล่าสุดที่เธอนอนหลับนั้น ก็ตอนอายุได้ 5-6 ขวบเท่านั้น ปัจจุบันอายุ 46 ปีแล้ว ซึ่งการนอนหลับเป็นเพียงความทรงจำเก่าๆ ที่เลือนลางเพียงเท่านั้น โดยเธอนั้นได้อาศัยอยู่ในหมู่บ้านแห่งหนึ่งในเขตจงเหมา และเธอกลายเป็นคนดังในหมู่บ้านไปในทันที หลังจากที่เรื่องราวของเธอได้ถูกแพร่สะพัดออกไป

   ด้าน หลิว ซั่วฉิน สามีของนางหลี่ ก็ยืนยันว่าภรรยาของเขาไม่จำเป็นต้องนอนเลย นับตั้งแต่พวกเขาแต่งงานกัน เขาสังเกตเห็นว่าเธอตื่นนอนทั้งกลางวันและกลางคืน ทำให้ในตอนแรกเขาคิดว่าภรรยาเป็นโรคนอนไม่หลับ ก็เลยซื้อยานอนหลับมาให้กิน ปรากฏว่าไม่ได้ผล

    จากรายงานระบุว่า นางหลี่เคยไปปรึกษาแพทย์เกี่ยวกับอาการของเธอหลายครั้ง แต่แพทย์ก็ไม่พบสิ่งผิดปกติแต่อย่างใด จนกระทั่งเธอถูกส่งตัวไปที่ศูนย์การแพทย์ในกรุงปักกิ่ง และในที่สุดความลับของเธอก็ถูกเปิดเผย หลังจากที่แพทย์ได้ตั้งกล้องตรวจสอบตรวจสอบ คลื่นสมองของเธอ เป็นเวลา 48 ชั่วโมง ก็พบว่าจริงๆ แล้วเธอนั้นก็ "นอนหลับ" ขณะที่กำลังนั่งและลืมตา โดยเธอไม่ได้หลับเหมือนคนปกติทั่วไป

    แพทย์ระบุว่า การนอนหลับของนางหลี่ เป็นการนอนหลับในระดับน้อย-ปานกลางเหมือนคนทั่วไป ซึ่งการหลับไม่ได้เกิดขึ้นในขณะเธอล้มตัวลงนอนและหลับตา โดยแพทย์ได้อธิบายปรากฏการณ์นี้ว่า "หลับเมื่อตื่น" ซึ่งเป็นสภาวะที่คล้ายกับการเดินละเมอ โดยเส้นประสาทและอวัยวะบางส่วนของนางหลี่ ยังคงทำงานอยู่ระหว่างการนอนหลับนั่นเอง

    ซึ่งกลไกลทั้งหมดนี้นางหลี่ถูกสมองของตัวเองหลอก โดยหลอกให้เข้าใจว่าตัวเองยังตื่นอยู่ แต่ตอนนั้นร่างกายของเธอกำลังอยู่ในสภาวะพักผ่อนเป็นที่เรียบร้อยแล้ว โดยที่เธอไม่ต้องหลับตา

    โดยขณะที่เธอหลับนั้นดวงตาเธอก็จะเคลื่อนไหวได้ช้าลงและมีอาการตาลอยหน่อยๆ ซึ่งบ่งบอกได้ว่าเธอกำลังพักผ่อนในช่วงเวลานั้น ซึ่งสามีของนางหลี่ก็เผยว่า เธอจะมีอาการกลอกตา หรือกะพริบตาช้าลง และมีดวงตาที่กลวงขึ้นเล็กน้อยขณะที่กำลังพูดคุยกับสามี แพทย์จึงวินิจฉัยว่านั่นอาจจะเป็นช่วงเวลาที่ร่างกายเข้าสู่สภาวะหลับในขณะตื่นนั่นเอง

    นั่นหมายความว่า วิธีการพักผ่อนของร่างกายและสมองของเธอ แตกต่างจากคนปกติโดยสิ้นเชิง เนื่องจากวิธีการพักผ่อนร่างกายและสมองที่ไม่ปกติของเธอ ทำให้นางหลี่เชื่อมาโดยตลอดว่าเธอนั้นไม่ได้นอนกว่า 40 ปีแล้วนั่นเอง

ที่มา : odditycentral, Bastille Post