นับว่าเป็นที่น่าเลื่อมใสจริงๆ สำหรับนักบุญท่านหนึ่ง ได้เดินเท้ากว่า 1,300 กม. โดยใช้เวลา 1 เดือน 20 วัน จากพังงามากราบหลวงปู่สรวง ที่วัดไพรพัฒนา จ.ศรีสะเกษ จนเท้าแตกพุพอง มีชาวพุทธบริจาคเงินคับคั่ง แต่ลุงนักบุญรับเงินแล้วส่งคืนให้ทุกคน เผยศรัทธาในองค์หลวงปู่สรวงมานาน ตั้งจิตอธิษฐาน จะต้องมากราบหลวงปู่สรวงให้ได้

    ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ได้มีชาวบ้านไพรพัฒนาและหมู่บ้านใกล้เคียงพากันมารอต้อนรับนักบุญท่านหนึ่ง นามว่า นายสุจิน  ศรีอำนาจ อายุ  53 ปี ได้เดินเท้าเปล่า มาจากจ.พังงา เพื่อมากราบไหว้สรีระสังขารที่ไม่เน่าเปื่อยของหลวงปู่สรวง  แม้ว่าท่านจะละสังขารไปนานกว่า 20 ปีแล้ว  

 

 

    เท้าทั้งสองของลุงนักบุญจะมีผ้าพันเอาไว้และเดินไปบนถนนที่ค่อนข้างร้อนจัด ด้วยความเร็วสม่ำเสมอ  ด้านหลังสะพายย่ามและกระเป๋า  มีดอกบัว  จำนวน  5  ดอก  และธูปเทียนอยู่ในกระเป๋า  มีชาวพุทธที่ศรัทธาจำนวนหนึ่งเดินตามมาด้วย  

 

 

    โดยชาวบ้านได้พากันนั่งรอ พร้อมทั้งนำเอาน้ำดื่มและนมสด รวมทั้งเงินสด  เพื่อที่จะบริจาคให้การสนับสนุนกับนายสุจิน  หรือที่ชาวบ้านเรียกว่าลุงนักบุญ  โดยเมื่อนายสุจินเดินผ่านมา ชาวบ้านได้พากันมอบเงินและสิ่งของให้  แต่ปรากฏว่านายสุจิน ลุงนักบุญได้รับเงินและสิ่งของมา  แล้วส่งมอบเงินและสิ่งของทั้งหมด คืนให้กับชาวบ้านที่นำเอามามอบให้  

    เมื่อลุงนักบุญเข้ามาในวัดแล้วได้เข้าไปกราบนมัสการพระครูโกศลสิกขกิจ หรือหลวงพ่อพุฒ วายาโม ประธานมูลนิธิหลวงปู่สรวง  เจ้าคณะ  อ.ภูสิงห์  ฝ่ายธรรมยุต  และเจ้าอาวาสวัดไพรพัฒนา  ซึ่งหลวงพ่อพุฒได้ให้การต้อนรับลุงนักบุญอย่างอบอุ่น  

 

 

    จากนั้นได้นำลุงนักบุญขึ้นไปกราบไหว้สรีระสังขารของหลวงปู่สรวง  พร้อมทั้งได้นำลุงนักบุญเดินลอดใต้สรีระสังขารของหลวงปู่สรวงเพื่อความเป็นสิริมงคล  และได้มอบวัตถุมงคลหลวงปู่สรวง  รุ่นปี  2543  จำนวน  1  องค์  พร้อมสร้อยลูกปะคำ  จำนวน  1  เส้น  ให้กับลุงนักบุญที่ได้เดินเท้าเปล่าระยะทางกว่า  1,300  กม.มาจนถึงวัดไพรพัฒนาในวันนี้  และมีแพทย์และพยาบาลจาก  รพ.สต.ไพรพัฒนา  มาช่วยทำแผลที่เท้าทั้ง  2  ข้างให้กับลุงนักบุญ  ซึ่งพบว่าเท้าทั้ง  2  ข้างแตกเป็นแผลพุพองและกำลังอักเสบด้วย

 

 

    นายสุจิน  ศรีอำนาจ อายุ  53 ปี  ซึ่งขณะนี้อยู่ในสภาพอิดโรยและเจ็บเท้าทั้ง  2  ข้างอย่างมาก  กล่าวด้วยใบหน้า ที่มีความสุขว่า  ตนมีความสุขมากที่ได้เดินทางมาจนถึงจุดหมายปลายทางแล้ว  โดยตนออกเดินทางจากบ้านเลขที่  27/57  หมู่ 7  บ้านท่านุ่น  ต.โคกกลอย  อ.ตะกั่วทุ่ง  จ.พังงา ตั้งแต่วันที่  6  ส.ค.63  เวลา สวมชุดขาวเดินเท้าเปล่ามาเรื่อยๆ ตามเส้นทางที่มุ่งหน้ามาที่วัดไพรพัฒนา  ต.ไพรพัฒนา  อ.ภูสิงห์  จ.ศรีสะเกษ  

    เดินเท้าได้วันละประมาณ  20  กม.ค่ำไหนนอนที่นั่นแบบง่าย ๆ ซึ่งจะมีคนนำเอาเงินมามอบให้  แต่ตนไม่รับ  เนื่องจากว่าตนไม่ได้ต้องการรับเงินบริจาคแต่อย่างใด  แต่ว่าตนมีจิตศรัทธาที่แรงกล้าที่ต้องการเดินเท้ามาเพื่อกราบสรีระของหลวงปู่สรวง  แม้จะประสบปัญหาอุปสรรคมากมาย แต่ว่าตนอดทนโดยใช้ขันติตามคำสอนของหลวงปู่สรวงที่ตนได้ศึกษาค้นคว้ามานานหลาย 10 ปี

 

 

    ทั้งหมดนี้ นักบุญท่านนี้ ได้เปิดเผยเวลาในการเดินทางทั้งหมด ซึ่งเป็นเวลายาวนานกว่า 1  เดือน  20  วัน หลังจากที่ตนได้กราบนมัสการสรีระสังขารของหลวงปู่สรวงแล้ว  ตนไม่ได้ขอพรอะไร  เพียงอธิษฐานจิตว่าขอเดินตามรอยของหลวงปู่สรวง และขอปฏิบัติธรรมตามแนวทางของหลวงปู่ ไม่ยึดมั่นถือมั่นในสิ่งใด  

 

 

    เพราะว่าหลวงปู่สรวงท่านคือธรรมะทั้งองค์  เมื่อได้กราบสรีระของหลวงปู่สรวงแล้ว  ตนก็จะเดินทางกลับโดยรถประจำทาง  จะไม่ยอมให้ลูกหลานมารับ  เพราะว่าเป็นภาระให้ลูกหลานเดือดร้อน

     ในเวลาต่อมา  พระครูโกศลสิกขกิจ หรือหลวงพ่อพุฒ  วายาโม  ประธานมูลนิธิหลวงปู่สรวง  เจ้าคณะ  อ.ภูสิงห์  ฝ่ายธรรมยุต  กล่าวว่า  โยมสุจินนับว่าเป็นผู้ที่มีศรัทธาอันแรงกล้าที่ต้องการน้อมจิตอธิษฐานปฏิบัติตามแนวทางปฏิบัติธรรมตามคำสอนของหลวงปู่สรวง  

    ซึ่งเป็นพระอริยสงฆ์ผู้ปฏิบัติดีปฏิบัติชอบ  และเป็นพระสงฆ์ที่ทรงคุณพิเศษ  เป็นพระสงฆ์ที่ทรงอภิญญา  เป็นที่เคารพศรัทธาของประชาชนชาวไทยและชาวกัมพูชา  โดยผู้ที่มากราบขอพรจากหลวงปู่สรวงจะได้รับพรตามคำขอทุกประการ  ทำให้ในแต่ละวันมีพุทธศาสนิกชนมากราบขอพรหลวงปู่สรวงเป็นจำนวนมากทุกวัน  ซึ่งหากว่าพุทธศาสนิกชนต้องการร่วมทำบุญและสร้างวิทยาลัยเทคโนโลยีหลวงปู่สรวง  วัดไพรพัฒนา  ขอเชิญบริจาคโดยตรงได้ที่มูลนิธิหลวงปู่สรวงวัดไพรพัฒนา  หรือวิทยาลัยเทคโนโลยีหลวงปู่สรวงวัดไพรพัฒนาเท่านั้น  

อ่านบทความที่เกี่ยวข้อง : นักปฏิบัติธรรมผู้มุ่งมั่น เดินเท้าเปล่า 1,000 กม. จากพังงา เพื่อมุ่งหน้าไปสักการะหลวงปู่สรวงที่ศรีสะเกษ

ที่มา : หลวงปู่สรวง วัดไพรพัฒนา