หลายคนอาจเคยได้ยินเรื่องราวความฉลาดสุดล้ำของ อีลอน มัสก์ (Elon Musk) มาหลายต่อหลายครั้งแล้ว แต่วันนี้แอดมินจะพาไปทำความรู้จักแม่ของเขา ผู้มีส่วนอยู่เบื้องหลังที่ทำให้ลูกชายคนนี้ประสบความสำเร็จ เธอเป็นนางแบบสาวสุดฮอตมีนามว่า เมย์ มัสก์ (Maye Musk) 

    เพราะเธอคนนี้คือคุณแม่ผู้ให้หลาย ๆ สิ่งหลายๆ อย่างกับลูก ๆ จนทำให้ลูกทุกคนนั้นมีทางเดินเป็นของตัวเอง คุณแม่ เมย์ มัสก์ในวัย 72 ปี แม้ว่าจะไม่ค่อยได้มีเรื่องราวให้เราได้ติดตามมากนัก แต่สิ่งหนึ่งที่เราอยากจะบอกก็คือความภาคภูมิใจของลูกๆทั้ง 3 คน ได้แก่ อีลอน รีฟ มัสก์ นักลงทุนและนักคิดผู้มีชื่อเสียง คิมบัล มัสก์ (Kimbal Musk)  น้องชายของเขา ซึ่งเป็นเจ้าของร้านอาหารหลายแห่ง และ ทอสกา มัสก์ (Tosca Musk) น้องสาวซึ่งเป็นผู้สร้างภาพยนตร์และผู้ประกอบการสื่อที่ประสบความสำเร็จในชีวิตมากมาย 

    หลังจากที่ได้ยินเรื่องความสำเร็จของครอบครัว มัสก์ (Musk) แล้วหลายคนก็อดสงสัยไม่ได้ว่าพวกเขาเติบโต และมีวัยเด็กในแบบของคนทั่วไปหรือเปล่า? ที่จริงจะบอกว่าความสำเร็จของพวกเขาทั้งหมดนั้นน่าจะมีจุดเริ่มต้นจากการเลี้ยงดูของแม่เขาก็ว่าได้ เนื่องจากพวกเขาได้รับการเลี้ยงดูจากคุณแม่สุดแกร่งและฉลาดเฉลียวท่านนี้

    ในหนังสือเล่มใหม่ของเธอ A Woman Makes a Plan: Advice for a Lifetime of Adventure, Beauty, and Success คุณแม่ลูก 3 สะท้อนชีวิตของเธอและเผยให้เห็นคำแนะนำในการเลี้ยงดูที่น่าประหลาดใจซึ่งพวกเรารู้สึกตื่นเต้นมากที่จะได้แบ่งปันกับคุณ

     “I never felt guilty about working full-time,” she says “because I didn’t have a choice. Taking care of my children was the top priority.”

    ในวัยเด็กลูก ๆ ของเธอถูกสอนให้เห็นถึงความสำคัญของการทำงานหนัก เมื่ออายุ 31 ปี เธอถูกปล่อยให้เลี้ยงลูกๆทั้ง 3 คนในฐานะคุณแม่เลี้ยงเดี่ยว เธอทำงานเป็นนักโภชนาการเพื่อหาเลี้ยงลูก ๆ เธอกล่าวว่า “ ฉันไม่เคยรู้สึกเหนื่อยเลยที่ต้องทำงานเต็มเวลา” “ เพราะฉันไม่มีทางเลือก และ การดูแลลูก ๆก็ เป็นสิ่งสำคัญที่สุด”

    และแบบอย่างของคุณแม่เมย์ นี่เองที่เป็นแรงผลักดันทำให้ลูกๆ ของเธอดูเป็นแบบอย่างและเห็นประโยชน์จากสิ่งนี้ พวกเขาได้เรียนรู้ว่าการทำงานหนักและความมุ่งมั่นนั้นสำคัญเพียงใด

    เธอให้ทุกอย่างแก่ลูก ๆ … ให้ความเป็นอิสระทางความคิด ใจดี และค่อยช่วยเหลือสนับสนุน

    “From a young age, the kids helped me with my nutrition business .As they got older, they continued to take responsibility for their own futures through the decisions they made. My kids benefited because they saw me work hard just to put a roof over our heads”

    เธอไม่เพียง แต่สอนลูก ๆให้เป็นคนที่ชอบในการทำงานอย่างจริงจังเท่านั้น แต่ยังต้องมีความเป็นอิสระ ใจดีและซื่อสัตย์ด้วย “ตั้งแต่เล็ก เด็กๆ จะช่วยฉันทำธุรกิจโภชนาการ เมื่อพวกเขาอายุมากขึ้น พวกเขาก็ยังคงรับผิดชอบต่ออนาคตของตัวเอง โดยเรียนรู้จักการตัดสินใจด้วยตัวเอง นี่เป็นประโยชน์ที่พวกเขาได้รับจากการเห็นฉันทำงานหนักเพื่อพวกเขา”

    เธอแสดงความเห็นว่าการทำดีเพื่อคนอื่นนั้นเป็นเคล็ดลับ และลูก ๆ ของเธอก็เห็นเธอทำเช่นนั้นในฐานะผู้ให้คำปรึกษาเกี่ยวกับอาหารเพื่อสุขภาพและในฐานะแม่ของพวกเขา แต่สิ่งที่สำคัญที่สุดคือคุณควรปล่อยให้ลูกไปตามทางของตัวเอง

    เมื่อมีคนถามว่าเธอเลี้ยงลูกให้ประสบความสำเร็จเช่นนี้ได้อย่างไร เธอบอกว่าทั้งหมดนี้เป็นเพราะ "การทำงานหนัก" (hard work) และที่สำคัญที่สุดคือ "การปล่อยให้พวกเขาทำตามสิ่งที่เขาสนใจ" (follow their interests) และสุดท้ายสิ่งสำคัญที่สุดคือลูก ๆ "ต้องมีความสุข" (happy and not stressed) และ ลูกต้องไม่กังวลมากกับความคาดหวังในการทำงานที่พ่อแม่ต้องการให้ทำ 

    เธอกล่าว “ในตอนแรก ฉันอยากให้ลูก 3 คนเป็นผู้ให้คำปรึกษาเกี่ยวกับอาหารเพื่อสุขภาพและเปิดสำนักงานด้วยกัน และอาศัยอยู่เคียงข้างฉัน แต่มันยากที่จะเป็นไปได้ และมันไม่เกิดขึ้น” แต่สุดท้ายเราก็เลือกให้ลูก ๆ ทำในสิ่งที่ตัวเองรักและถนัด เพราะมันจะอยู่กับเค้าไปตลอดจนเค้าเติบโตขึ้น ความสำเร็จของพวกเขาก็มีรากฐานมาจากสิ่งที่พวกเขารักตั้งแต่เด็ก ๆ

    คุณแม่เมย์กล่าวอีกว่า "ตอนที่พวกเขายังเด็ก อีลอน ชอบอ่านหนังสือ ส่วน ทอสกา มักจะวุ่นวายมาอยู่กับฉัน แล้ว คิมบัล ก็ชอบหยิบพริกขึ้นมาดมแล้วพูดว่า “หืมมม” ซึ่งฉันคิดไม่ถึงเรื่องร้านอาหารของ Tesla หรือ SpaceX หรือ Kimbal, Kitchen หรือ Big Green หรือ Passionflix ของ Tosca แต่ตอนนี้ฉันได้เห็นแล้วว่า อีลอน ประสบความสำเร็จด้านเทคโนโลยี ส่วน คิมบัลกำลังสร้างอะไรในโลกแห่งอาหาร และได้เห็นสิ่งที่ ทอสกา กำลังทำกับภาพยนตร์ ทั้งหมดนี้มีรากฐานมาจากสิ่งที่พวกเขารักตั้งแต่เด็ก ๆ”

    และนี่คือสิ่งที่เธอกล่าวถึงลูกๆ และวิธีในการเลี้ยงดูลูกในสไตล์ของเธอ ซึ่งค่อนข้างที่จะดูธรรมดาไม่ได้จำกัดอะไรมาก แต่สิ่งสำคัญคือเธอยึดตัวเองเป็นแบบอย่างให้ลูกได้เห็นถึงการทำงานหนัก โดยที่ไม่ต้องสอนอะไรมาก ลูกจะดูเราและเรียนรู้สิ่งต่างๆ ด้วยพัฒนาการของตนเอง! แล้วคุณล่ะ เลี้ยงลูกในแบบไหน อย่าพยายามยัดเยียดอะไรให้ลูกมาก เพราะความสำเร็จเกิดขึ้นไม่ได้จากการยัดเยียด แต่ต้องเกิดจากใจรัก ทำแล้วมีความสุขจริงๆ เหมือนอย่างเช่น ครอบครัวนี้

    ชมคลิป

คลิปเปิดไม่ออก >>> กดตรงนี้ คลิก <<<

ที่มา : plearnplearns, brightside