ต้องบอกเลยว่าเป็นประเด็นร้อนต่อเนื่องเลยทีเดียว สำหรับกรณีนักร้องดัง เจนนิเฟอร์ คิ้ม หลังออกมาฟาดแรงชาวเน็ต คอมเมนต์บอก รอดิสไลก์คลิปต่อไปอยู่ ซัดกลับใครแคร์? ไม่ต้องทำรายการก็ยังมีเงินเหลือใช้เยอะกว่าครอบครัวหนูอีก

    ดูเหมือนดราม่าจะยังไม่จบลงง่ายๆ หลังมีคอมเมนต์หนึ่งเขียนว่า "รอดิสไลก์อีพีต่อไปอยู่นะคะ" ซึ่งต่อมา เจนนิเฟอร์ คิ้ม ก็เข้ามาตอบกลับว่า "ใครแคร์คะหนู... ไม่ต้องทำรายการ...เงินก็เหลือใช้เยอะกว่าครอบครัวหนูอีก...อย่ามัวมาเมนต์ด่าคนที่รวยแล้ว...ไปทำงานแล้วหาให้ได้สักกระผีกที่ป้ามีนะคะ"

    ก่อนล่าสุด เจนนิเฟอร์ คิ้ม ได้ปล่อยคลิปใหม่ในยูทูบ รายการเจ๊คิ้มชิมช่วยชาติ เป็นรายการที่คิ้มกับ แจ็ค แฟนฉัน จะช่วยกันชิมอาหารของผู้ประกอบการร้านอาหารต่าง ๆ พร้อมกับให้เจ้าของร้านโปรโมตร้านของตัวเอง เพื่อช่วยลดผลกระทบ โดยเมื่อลงคลิปดังกล่าวผ่านไป 2 วัน มียอดผู้ชมกว่า 2 แสนครั้ง มีคนกดไลก์ 2.1 หมื่นครั้ง แต่คนดิสไลก์มากกว่า 3.8 หมื่นครั้ง (ข้อมูล ณ วันที่ 29 สิงหาคม )

    นอกจากนี้  เจนนิเฟอร์ คิ้ม ยังได้โพสต์ใน IG สตอรี่ ด้วยข้อความตัดพ้อว่า "คนๆ นั้นต้องขาดจิตสำนึกและความเห็นอกเห็นใจแค่ไหน ถึงจะเข้ามากด dislike ในรายการเจ๊ชิมช่วยชาติ ซึ่งเรากำลังช่วยพ่อค้าแม่ค้าขายที่ลำบากไม่มีช่องทางโปรโมตให้ขายของได้ เอาเงินไปเลี้ยงพนักงาน เลี้ยงครอบครัว เกลียดคนแค่คนเดียวก็ให้มันรู้จักแยกแยะบ้าง ทุกวันนี้ทุกคนก็หากินอย่างยากลำบากพอแล้ว อย่ามาซ้ำเติม สปอนเซอร์ในรายการเขาก็ใจดี ใจถึง มีเรื่องอยู่เขาก็ไม่ถอน เขาอยากช่วยพ่อค้าแม่ค้าขาย อย่าใจร้ายกันนักเลย..."

    อย่างไรก็ตาม มีทั้งคนที่ชอบและไม่ชอบเข้าไปแสดงความคิดเห็นจำนวนมาก ขณะที่หลายคนก็รู้สึกผิดหวังมากกว่าเดิมกับการตอบคอมเมนต์ของ เจนนิเฟอร์ คิ้ม ที่เห็นต่างด้วยถ้อยคำที่ค่อนข้างรุนแรง เหยียดเรื่องฐานะคนอื่นแบบนี้ไม่เหมาะสม และสวนกลับคนที่คอมเมนต์แรงๆ ไปแบบแรงไม่แพ้กัน บางคนมาแบบดีๆ ก็โดนตอบกลับด้วยคำหยาบคาย จนหลายคนรู้สึกผิดหวังที่นักร้องดังฟาดงวงฟาดงาแบบนี้ 

    โดยคนที่ไม่ชอบก็อธิบายว่า ไม่ชอบทัศนคติของคิ้มและการแสดงออกผ่านโซเชียล ที่ตกเป็นประเด็นร้อน ส่วนคนที่ชอบก็ให้กำลังใจและยืนยันว่าจะซัพพอร์ตต่อไป 

.

.

ความเห็นจากชาวเน็ต ก่อนเจอตอกกลับไม่ไว้หน้า

.

บทความเกี่ยวข้อง : "เจนนิเฟอร์ คิ้ม" งงหนักมาก IG ยอดพุ่งพรวด หลังโดนดราม่า ลั่นจะจงรักภักดี ไปจนวันสุดท้ายของชีวิต

ที่มา : j.kim4real