นับว่าเป็นอีกหนึ่งนักน้องลูกทุ่งที่สู้ชีวิตมากเลยทีเดียว สำหรับ ฝน ธนสุนทร เจ้าหญิงแห่งวงการลูกทุ่ง ที่ใจแกร่งมาตั้งแต่เด็ก เล่าชีวิตบ้านยากจน ต้องไปขอข้าววัดกินประทังชีวิต ทั้งโดนเพื่อนล้อเพราะหน้าตาดีกว่าคนอื่น นึกว่าเป็นเด็กเก็บมาเลี้ยง 

    ชีวิตของ ฝน ธนสุนทร ผ่านความขมขื่นมามาก ก่อนฟ้ามีตาชีวิตพลิกผัน ได้ประกวดและเริ่มก้าวเข้าสู่วงการบันเทิง จนมีชื่อเสียงได้ถึงทุกวันนี้ ตอนเด็กยอมรับว่า  บ้านยากจนมาก อาศัยอยู่กับครอบครัวที่ต่างจังหวัด มีแค่บ้านเก่าๆ โทรมๆ อยู่กันทั้งหมด 10 คน คนที่หารายได้หลักคือ คุณปู่ พ่อแม่ก็หา แต่รายได้น้อยกว่าคนในบ้าน เราจึงไม่มีสิทธิ์ได้กินขนม ถ้าวันไหนถึงขั้นไม่มีข้าวกินก็ไปขอข้าวที่วัดกิน

    ฝนเล่าว่าตอนเด็กเราอยากกินขนมแต่ว่าไม่มีเงินซื้อ เลยไปหาอะไรในกองขยะ บางทีเขาก็เอาของมาทิ้งเราก็เอาไปชั่งกิโลขายได้เงินซื้อขนมกิน เรามองว่ากองขยะนี่มันเป็นมหาสมบัติของเราจริงๆ ทั้งนี้ตนก็บอกว่าพ่อกับแม่ก็ไม่ได้ให้ไปเก็บขยะขายแต่เพราะอยากกินขนม ตนจึงต้องดิ้นรนเอาเอง

    ตอนเด็กๆเพื่อนส่วนใหญ่ ไม่ได้ล้อตนเรื่องบ้านยากจน แต่โดนเพราะหน้าเหมือนเด็กฝรั่ง เขาก็จะเรียกว่าลูกพ่อแม่เก็บมาเลี้ยง ถ้าเราเป็นลูกที่เก็บมาเลี้ยงจริงๆ เราก็ภูมิใจ เพราะแสดงว่าพ่อแม่ที่แท้จริงไม่รักเราถึงทิ้งเรา แล้วมาอยู่กับพ่อแม่คนนี้ ที่พวกท่านรักเรามาก แต่คนที่เสียใจในเรื่องนี้กลับเป็นคุณพ่อแทน เพราะเราโดนบ่อยเข้าจึงแอบไปถามแม่ ว่าเราใช่ลูกพ่อหรือเปล่า แม่ก็เล่าให้พ่อฟัง เสียใจ กิ น เ ห ล้า เ ม า ว่าลูกคิดว่าตัวเองไม่ใช่ลูกพ่อ"

    อาหารที่พิเศษสุดๆที่ได้ทาน คือไข่เจียว เพราะว่าทั้งหมด 10 คนที่บ้าน ไข่เจียวมันไม่ได้ผสมน้ำ แต่ถ้าไข่ตุ๋นกินบ่อย แค่ 2 ฟองแต่ผสมน้ำเยอะมาก เพื่อจะได้กินหลายคน ไข่เจียวต้องใช้ไข่หลายฟองก็เงินหลายบาท แล้วก็ต้องมาแบ่งเท่าๆ กัน เนื้อสัตว์ไม่ได้กินเลย ไข่เจียวคือที่สุด"

    ทั้งนี้ ฝน ธนสุนทร ยังได้เล่าถึงเส้นทางสู่วงการ ตนไม่เคยคิดไว่าจะประกวด เพราะที่บ้านยากจนมาก แต่ที่รู้ข่าวเพราะกำลังนั่งเล่นอยู่ แล้วกระดาษหนังสือพิมพ์ปลิวมาวางตรงหน้า ทั้งนี้ยังเผยอีกว่าบ้านไม่มีทางซื้อหนังสือพิมพ์อยู่แล้ว จึงเก็บมาอ่านเล่นๆ ว่ามีประกวดชิงทุนการศึกษา ก็ส่งรูปไปส่งเข้าประกวด 

    แต่ต้องมาประกวดที่กรุงเทพ นั่งรถทัวร์มากับคุณอา 2 คน ชีวิตพลิกเลยเป็นจุดเริ่มต้นในวงการ แต่ก่อนหน้านี้เราก็รับร้องเพลงจากงานจ้าง พอได้ตำแหน่งคนก็จ้างมากขึ้น ค่าตัวเพิ่มขึ้น ช่วงนั้นมีงานร้องเพลงเกือบทุกวัน พอเราดังขึ้น คุณพ่อคุณแม่ก็ชื่นใจ ไปไหนก็บอกนี่ลูกสาว

    ร้องเพลงไปเรื่อยๆ ในจังหวัดอุดรฯ จนมีคนเห็นแวว ค่ายเพลงก็ได้ติดต่อมา พร้อมเรียกมาเซ็นสัญญาตอน ม.5 ตอนแรกเป็นเพลงสตริงก่อน แต่ไม่ค่อยประสบผลสำเร็จ ชุดที่ 2 ก็ยังเป็นสตริงก็เหมือนเดิม เกือบจะม้วนเสื่อกลับบ้านแล้ว จนได้มาทำเพลงลูกทุ่ง ชีวิตจึงอยู่มาได้จนถึงทุกวันนี้ ซึ่งเราถนัดลูกทุ่งยึด พี่ผึ้ง พุ่มพวง เป็นแม่แบบ เราก็เลยรักเพลงลูกทุ่ง"

    ล่าสุดมีเรื่องไม่สบายใจ ตนมองว่าแฟนเพลงคือผู้มีพระคุณ แต่วันนั้นเราไปร้องเพลง แล้วโดนกระแสกลับมาว่าขอถ่ายรูปไม่ให้ถ่าย ดังแล้วหยิ่ง เราก็เครียดเพราะมันไม่ใช่อย่างนั้น มันมีเหตุผล 

    ช่วงจังหวะคนมารุมบางทีมีคนเมาจะมาฉวยกอดจับเราก็ต้องปกป้องตัวเอง แล้วมันทำให้เราเสียใจ ตอนนี้ก็ให้เข้าแถวแต่ก็มาเรื่อยๆ คนที่มาไม่ทันก็ว่าเราอีก เราก็เลยคิดว่ามันอื่มแล้วมันพอแล้วมั้ย 

    เพราะเวลาเราไปปฏิบัติธรรมแล้วมีความสุข ไม่ต้องคิดอะไรเลย ไม่ต้องไปต่อสู้หรือแก่งแย่งกับใครเลย มันมีความสุขจริงๆ ตอนนี้ความคิดเรามันปรับเปลี่ยนไป ถ้าหากเรามีวาสนาที่จะได้บวชก็ปล่อยให้เป็นไปตามบุญวาสนานั้น ตอนนี้ใช้ชีวิตโดยใช้ธรรมะเข้าช่วย และมีสติในการทำงาน

.

ชมคลิป

คลิปเปิดไม่ออก >>>>> กดตรงนี้ คลิ๊ก !!!! <<<<<

ที่มา : คุยแซ่บ Show