ทำเอาชาวเน็ตรุมจวกยับเลยทีเดียว เมื่อสาวแบงก์แสบ แอบโอนเงินลูกค้าเอาไปใช้ส่วนตัว รวมมูลค่าความเสียหายนับ 10 ล้านบาท พอรู้ตัวจะโดนจับ รีบขับรถหนีชนต้นไม้ ก่อนโดนรวบคาโรงพยาบาล

    จากกรณีผู้เสียหายหลายรายใน จ.ชัยภูมิ ถูกมิจฉาชีพนำข้อมูลส่วนตัวจากการเป็นลูกค้าของธนาคาร ไปผูกเข้ากับบัตรเครดิต-บัตรเดบิต แล้วแอบโอนถอนเงินในบัญชีผ่านโทรศัพท์มือถือไปยังอีกธนาคาร ก่อนนำเงินไปลงทุนต่าง ๆ รวมเป็นมูลค่าความเสียหายนับ 10 ล้านบาทนั้น

(ภาพ ผู้เสียหาย)

   ล่าสุดสำนักข่าวไทย ได้รายงานความคืบหน้า เกี่ยวกับกรณีนี้ เปิดเผยว่านางกำไล อายุ  58 ปี และนางนรินทร์ อายุ 36 ปี 2 ยาย-หลานได้เข้าแจ้งความตำรวจ สภ.เมืองชัยภูมิ ระบุว่า เงินในบัญชีของน้องสาวที่อยู่ต่างประเทศ ซึ่งโอนมาเก็บไว้เป็นค่าใช้จ่ายจำนวนกว่า 1.8 ล้านบาท ได้หายไปจากบัญชี เหลือเงินติดบัญชีเพียง 3,700 บาท โดยสงสัยว่าถูกแอปพลิเคชันดูดเงินที่กำลังอาละวาดในขณะนี้โจรกรรมเงินไป

(นางสาวปัทมา บุตรศรี ผู้ก่อเหตุ)

    จากการตรวจสอบทราบว่าผู้ก่อเหตุคือ พนักงานสาวของธนาคารแห่งหนึ่งที่ลอบโอนเงินลูกค้าจากบัญชี ตำรวจจึงขออนุมัติศาลจังหวัดชัยภูมิ เลขที่ 152/2564 ลงวันที่ 20 ตุลาคม 2564 กล่าวหา นางสาวปัทมา บุตรศรี อายุ 28 ปี ลูกจ้างธนาคารซึ่งกระทำความผิดฐานลักทรัพย์นายจ้าง และนำเข้าข้อมูลสู่ระบบคอมพิวเตอร์อันเป็นเท็จ พร้อมส่งหมายให้ตำรวจออกติดตามตัว

    ต่อมาตำรวจตามจับตัวนางสาวปัทมาเอาไว้ได้ หลังขับรถหลบหนีไปประสบอุบัติเหตุชนต้นไม้ข้างทาง บริเวณโค้งภูซาดบนถนนสายชัยภูมิ-แก้งคร้อ อ.เมือง จ.ชัยภูมิ จนได้รับบาดเจ็บ ก่อนถูกส่งมารักษาตัวที่โรงพยาบาลชัยภูมิ-ราม และควบคุมตัวมาสอบสวนที่ สภ.เมืองชัยภูมิ

    เบื้องต้น นางสาวปัทมา ให้การรับสารภาพว่ากระทำเพียงคนเดียว จึงส่งตัวไปฝากขังยังศาลจังหวัดชัยภูมิ และต่อมานางสาวปัทมาได้ยื่นหลักทรัพย์มูลค่า 4,000,000 บาท เพื่อขอประกันตัวในชั้นศาลออกไป

    ทั้งนี้หลังจากที่ นางกำไลและนางนรินทร์ ดันชัยภูมิ อายุ 36 ปี ผู้เสียหาย เข้าพบ ร.ต.ท.พัชรพล อาจกมล รอง สว.(สอบสวน) สภ.เมืองชัยภูมิ เพื่อลงบันทึกประจำวันไว้เป็นหลักฐาน ภายหลัง ธนาคาร นัดให้นำสมุดบัญชีเงินฝากมาปรับยอดเพื่อรับเงินโอนคืนจากสาเหตุถูกลอบถอนเงินออกจากบัญชี 

    ซึ่งทางธนาคารโอนเงินคืนให้พร้อมดอกเบี้ย ที่ทางพนักงานธนาคาร ยักยอกทรัพย์ไป รวมเป็นเงินทั้งสิน 1,834,125.94 บาท ก่อนที่นางกำไลและนางนรินทร์ พร้อมญาติๆ ได้มอบกระเช้าของขวัญ เป็นการขอบคุณ ร.ต.ท.พัชรพล เพื่อเป็นกำลังใจในการปฏิบัติหน้าที่ช่วยเหลือชาวบ้านต่อไป ขณะที่ในส่วนของคดี ตำรวจเชื่อว่าผู้ต้องหาที่ก่อเหตุ น่าจะมีเหยื่อถูกกระทำแบบนี้อีกนับ 

 อยู่ระหว่างประสานเข้าแจ้งความดำเนินคดี 

ความเห็นจากชาวเน็ต

.

.

ที่มา : สำนักข่าวไทย