เว็บไซต์ต่างประเทศ ซีเอ็นเอ็น ได้เผยแพร่รายงานข่าวเชิงสืบสวนสอบสวนที่ระบุว่า มีเครือข่ายอาชญากรในไทย ส่งถุงมือยางใช้แล้วที่สกปรกและอันตรายไปให้กับบริษัทที่สั่งซื้อเพื่อนำเข้าสู่สหรัฐอเมริกาหลายสิบล้านชิ้น 

    หลังจากความต้องการถุงมือยางพุ่งขึ้นสูง เพราะการสถานการณ์ปัจจุบัน โดยที่ทางการไทยลงมือจับกุมกวาดล้างไปแล้ว 1 ราย เมื่อเดือนธันวาคมปลายปีที่แล้ว แต่รายงานของซีเอ็นเอ็นระบุว่า ยังคงมีเครือข่ายอาชญากรในไทยดำเนินการผิดกฎหมายอยู่ และทางการไทยกับสหรัฐอเมริกากำลังสืบสวนสอบสวนกรณีนี้อยู่ทั้งในไทยและในสหรัฐอเมริกา

    ซีเอ็นเอ็นระบุว่า "แพดดี้เดอะรูม" บริษัทไทยที่ถูกเจ้าหน้าที่เข้ากวาดล้างและพบว่าเป็นแหล่งนำเอาถุงมือยางใช้แล้วมาย้อมแมวทำความสะอาดให้เหมือนใหม่ แล้วบรรจุกล่องเพื่อส่งออกใหม่ เพียงบริษัทเดียวก็ส่งออกถุงมือยางหลายสิบล้านชิ้น อย่างต่อเนื่องในอีกหลายเดือนต่อมา บางส่วนเพิ่งเดินทางถึงสหรัฐอเมริกาเมื่อ เดือนกรกฎาคมที่ผ่านมานี่เอง

    ซีเอ็นเอ็นให้รายละเอียดไว้ว่า เมื่อปลายปีที่แล้ว นายทาเร็ก เคิร์สเชน นักธุรกิจชาวอเมริกันจากเมืองไมอามี ได้สั่งถุงมือยาง 2 ล้านชิ้นจากบริษัทในไทยชื่อ "แพดดี้เดอะรูม" เพื่อนำไปขายต่อให้กับผู้ขายปลีกในสหรัฐอเมริกา แต่เมื่อสินค้าส่งมาถึงก็พบว่าเป็น ถุงมือใช้แล้ว ผ่านการซักล้าง แล้วนำมารีไซเคิลขาย บางส่วนยังสกปรกเห็นได้ชัด 

    มีจำนวนหนึ่งที่ยังคงมีคราบเลือดติดอยู่อีกด้วย นายเคิร์สเชน ระบุว่า ตนต้องจ่ายเงินคืนให้กับผู้จองซื้อ นำถุงมือยางที่ได้รับมาไปทิ้ง แล้วแจ้งเรื่องต่อ สำนักงานอาหารและยา (เอฟดีเอ) ของสหรัฐอเมริกาเมื่อเดือนกุมภาพันธ์ต้นปีนี้

    ซีเอ็นเอ็นชี้ว่า มีอีกบางบริษัท อย่างเช่น ยูเอสลิเบอร์ตี แอลแอลซี ที่พบปัญหาทำนองเดียวกัน แต่ในกรณีของ ยูเอสลิเบอร์ตี เป็นการสั่งซื้อจากบริษัทของเวียดนาม ซึ่งส่งถุงมือที่มีรู, มีคราบสกปรก, ขาด, สีซีดจางและเปลี่ยนสีไปเลยก็มีมาให้

    นายหลุยส์ ซิสกิน เจ้าของบริษัท แอร์ควีน ซึ่งตกเป็นเหยื่อของ "แพดดี้เดอะรูม" อีกราย สูญเสียเงินไปราว 2.7 ล้านดอลลาร์ (คิดเป็นเงินไทย ราวๆ 89 ล้านบาท) เปิดเผยกับซีเอ็นเอ็นว่า ตอนติดต่อกันเป็นครั้งแรก บริษัทแพดดี้เดอะรูม ส่งเอกสารการตรวจสอบคุณภาพโดยผู้ตรวจสอบอิสระที่ดูแล้วไม่มีอะไรน่าสงสัยมาให้ดู เอกสารการตรวจสอบดังกล่าวระบุว่า ถุงมือที่จัดส่งมาทั้งหมดนี้มีคุณภาพสูง แต่ปรากฏภายหลังว่า เอกสารดังกล่าวปลอมแปลงขึ้นทั้งหมด แม้ว่าจะอ้างชื่อบริษัทตรวจสอบที่มีอยู่จริงก็ตาม

ภาพ นายหลุยส์ ซิสกิน เจ้าของบริษัท แอร์ควีน

    เมื่อได้รับของที่ไม่เป็นไปอย่างที่คิด นายซิสกิน ได้แจ้งเรื่องทั้งหมดต่อเอฟดีเอ และสำนักงานศุลกากรสหรัฐอเมริกา (ซีบีพี) เมื่อเดือนกุมภาพันธ์ แต่ซีเอ็นเอ็นระบุว่าจากการตรวจสอบพบว่า หลังจากนั้น มีถุงมือยางที่จัดส่งโดยบริษัทแพดดี้เดอะรูมมายังสหรัฐอเมริกา อีก 28 ตู้คอนเทนเนอร์ รวมแล้วมากกว่า 80 ล้านชิ้น 

    โดยกว่า ทางเอฟดีเอ จะแจ้งเตือนกรณีของแพดดี้เดอะรูมไปยังเจ้าหน้าที่เอฟดีเอประจำท่าเรือทุกแห่งให้อายัดสินค้าของแพดดี้เดอะรูมทันทีโดยไม่ต้องตรวจสอบสภาพ ก็ต้องรอถึงเดือนสิงหาคมที่ผ่านมานี่เอง

    ดักลาส สไตน์ ผู้เชี่ยวชาญเปิดเผยกับซีเอ็นเอ็นระบุว่า ถุงมือยางถือเป็นสินค้าโภคภัณฑ์ที่อันตรายที่สุดในโลกในเวลานี้ เนื่องจากหลายประเทศพากันระงับกฏเกณฑ์การตรวจสอบคุณภาพตามปกติ เพราะมีความต้องการสูงและจำเป็นต้องใช้งานเร่งด่วน เช่นเดียวกับที่สหรัฐอเมริกาก็ระงับใช้อยู่จนถึงขณะนี้ ทำให้กลายเป็นช่องโหว่ในอาชญากรอาศัยใช้ประโยชน์นั่นเอง

    รายงานของซีเอ็นเอ็นระบุว่า ทางการไทยได้เข้าตรวจยึดโรงงานรีไซเคิลถุงมือยางผิดกฎหมายของแพดดี้เดอะรูมไปเมื่อเดือนธันวาคม และพบว่าอาจมีบริษัทอื่นมีส่วนเกี่ยวข้องอยู่อีก โดยเฉพาะบริษัท สกายเมด ซึ่งพบมีกล่องบรรจุถุงมือยางสำหรับส่งออกที่โกดังเดียวกัน

    ล่าสุด พล.ต.ท.จิรภพ ภูริเดช ผบช.ก. เปิดเผยความคืบหน้ากรณีสำนักข่าวซีเอ็นเอ็น ได้เสนอข่าวเรื่องประเทศไทยเป็นผู้ผลิตถุงมือยางไม่ได้มาตราฐานไปอเมริกา ซึ่งอาจมีผลทำให้เสื่อมเสียต่อด้านการค้าระหว่างประเทศ

    โดยทาง พล.ต.ท.จิรภพ กล่าวว่า ทางพล.ต.อ.สุวัฒน์ แจ้งยอดสุข ผบ.ตร. ได้สั่งการให้กองบัญชาการสอบสวกลางรวบรวมข้อมูลพยานหลักฐานเกี่ยวกับ กลุ่มคนหรือบุคคล ที่มีการฉ้อโกงในสถานการณ์นี้และตรวจสอบข้อเท็จจริง ทั้งนี้จากการตรวจสอบพบข้อเท็จจริงตามที่ปรากฎเป็นข่าวว่า ผู้ที่ให้ข้อมูลกับทางสำนักข่าวซีเอ็นเอ็น เป็นชาวอเมริกา นั่นคือนายหลุยส์ ซิสกิน ที่สถานะตอนนี้ อยู่ในถานะเป็นผู้ต้องหาในคดีอุ้มทวงหนี้ชาวไต้หวัน ในพื้นที่ สน.ทองหล่อ 

    ซึ่งชาวไต้หวันที่ถูกอุ้ม เป็นเจ้าของบริษัทผลิตส่งถุงมือยางที่ส่งขายในอเมริกา ที่ไม่ได้มาตราฐาน นอกจากนี้ยังตกอยู่ในสถานะผู้เสียหายจากกรณีเดียวกัน ซึ่งเคยแนะนำให้ไปแจ้งความ แต่ก็ไม่พบว่ามาแจ้งความกับตำรวจให้ดำเนินคดี ซึ่งหากผู้เสียหายต้องการดำเนินคดี ก็สามารถกลับมาดำเนินการแจ้งความได้และทางตำรวจสอบสวนกลางก็พร้อมที่จะดำเนินการ

    ในส่วนของการที่สำนักข่าวมีการระบุถึง บริษัท สกายเมด นั้น ทางบริษัทดังกล่าวเคยถูกตำรวจ บก.ปคบ. ดำเนินคดี โดยครั้งนั้นมีการมัดจำซื้อถุงมือยางมูลค่ากว่า 100 ล้านบาท แต่ปรากฎว่าไม่ได้มีการส่งของไปทางผู้เสียหายจึงมาแจ้งความที่ บก.ปคบ. นอกจากนี้ทางบริษัทยังมีคดีความในความรับผิดชอบของกรมสอบสวนคดีพิเศษสองเคสด้วย

ชมคลิป

คลิปเปิดไม่ออก >>> กดตรงนี้ คลิก <<<

ที่มา : dailynews, amarintv