ต้องบอกเลยว่าครองใจคนไทยไม่น้อยเลยทีเดียว สำหรับ "หนุ่ม กรรชัย กำเนิดพลอย" พิธีกรแนวหน้าเมืองไทย ที่ไม่ว่าจะข่าวดังหรือข่าวในกระแส เรื่องไหนก็ฟาดไม่ยั้ง เอาอยู่ทุกตอน โดนใจคนไทยทั่วประเทศ

    ซึ่งล่าสุด หนุ่ม กรรชัย ร่วมไลฟ์สดกับพูดคุยกับ "พระมหาสมปอง" โดยแบ่งเป็น 3 ตอน เรื่องที่พส.อยากรู้, เรื่องของหนุ่มอยากจะบอก อยากจะเล่าเอง และ สิ่งที่คนในแฟนเพจอยากรู้ เป็นต้น

    ทั้งนี้ในระหว่างการไลฟ์ก็มีการพูดคุยอย่างสนุกสนาน โดยเจ้าตัวเล่าว่า วันหนึ่งจากนักแสดงมาเป็นสื่อ แรกๆหลายคนก็รับไม่ได้ เคยท้อ แต่ก็นำคำเหล่านั้นมาขับเคลื่อนผลักดันเรา ทั้งนี้เล่าว่า "ตนเองถูกสอนว่าคนเรารับอย่างเดียวไม่ได้ มันต้องแบ่งปันด้วย พอตนได้มีโอกาสมาเป็นสื่อ ในบางแง่บางมุมตนมีโอกาสคืนให้คนอื่นเขามากกว่าที่จะอยู่เฉยๆ 

    แต่เคยถูกด่านะว่า ผมเองเป็นสื่อกลางได้แต่เป็นคนกลางไม่ได้ คือสื่อกลางเป็นคนนำเสนออย่างเดียว เป็นคนกลางเป็นคนเข้าไปไกล่เกลี่ย สมัยนี้ผมเถียงใจขาดเลยผมมองว่าปัจจุบันสื่อเป็นทั้งสื่อกลาง คนกลาง และเป็นอะไรให้สังคมมากมาย

    อย่างเช่นกับเรื่องราวการเบลอหน้าเบลอตานี้ ตนก็มองว่ามันก็มีอะไรน่าผิดเพี้ยนไปบางเรื่องเช่นกัน อย่างกับการประกาศจับ เมื่อเช้าตนอ่านข่าวอันนึง ตำรวจปลอมแต่งชุดเป็นตำรวจไปหลอกมีอะไรกับผู้หญิงและถ่ายคลิป แต่เวลาภาพออกมาต้องเบลอหน้า ตนถามเบลอทำไม พร้อมรีบยกมือไว้พระอาจารย์และกล่าวอีกครั้ง "ขอโทษนะพระอาจารย์ภาษาชาวบ้าน เบลอทำ**อะไร" 

    ในเมื่อก็คือคนร้ายเราจำเป็นต้องเปิดให้คนเห็นว่านี่คือบุคคล อันตรายผู้หญิงต้องระวังและเพื่อความเป็นธรรมกับเขาด้วย เพราะเขาถูกเอารูปมาแชร์ ให้เขารูว่าคุณตกเป็นผู้ต้องสงสัย ตกเป็นผู้ต้องหา ให้เข้ามอบตัวซะ ถ้าไม่ได้ทำก็ให้ความเป็นธรรมด้วย ตนก็ไม่รู้ใครกำหนด นโยบายขึ้นมา แต่ตนเข้าใจถ้าเกิดถูกจับไปแล้วเขาจะมีสิทธิ์ของเขา อันนั้นอ่ะเบลอได้

    หรือแม้กระทั่งเรื่องครอบครัวที่เบลอหน้าลูกแต่ไม่เบลอหน้าพ่อแม่อันนี้ก็ไม่ได้เหมือนกัน เพราะเขาไปสืบจากพ่อแม่ได้ว่าลูกเป็นใคร เพราะฉะนั้นถ้าเบลอต้องเบลอให้หมด มันต้องมีเรื่องจำเป็นอะไรต้องเบลออะไรต้องไม่เบลอ"

    ซึ่งหลังจากที่พี่หนุ่มพูดไป พบชาวเน็ตจำนวนมาก ปรบมือให้กับความคิดเห็นนี้ ซึ่งทำให้ได้มุมมองบางอย่างขึ้นมา จนหลายคนก็ต่างพากันแสดงความเห็นต่ออย่างคับคั่งเลยทีเดียว

.

.

ชมคลิป ตั้งแต่นาทีที่ 1.01.30 เป็นต้นไป

คลิปเปิดไม่ออก >>> กดตรงนี้ คลิก <<<

ที่มา : พระมหาสมปอง ตาลปุตฺโต