การสร้างอาคารขึ้นมา ต้องวางแผนการทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ สามารถกำหนดงบประมาณที่ใช้ รวมถึงระยะเวลาการก่อสร้างให้เสร็จสิ้นตามช่วงเวลาที่กำหนด แต่ถ้าหากเกิดความล่าช้าก็อาจจะส่งผลกระทบโดยรวมต่อการวางแผนในสิ่งอื่นๆได้ รวมไปถึงการที่ไม่สามารถสร้างต่อให้เสร็จได้ จึงต้องตัดปัญหาด้วยการทำลายทิ้ง

    เหมือนกับเรื่องราวล่าสุด ทำเอาประชาชนชาวเมืองประเทศจีน ตื่นตาเลยทีเดียว เมื่อทางการได้ทำลายตึกสูงระฟ้า 15 ตึก หลังค้างก่อสร้างมานานกว่า 7 ปี คาดเป็นการทำลายตึกครั้งใหญ่สุดในประเทศจีนเลยทีเดียว

    เหตุการณ์ในครั้งนี้เกิดขึ้นที่ เมืองคุนหมิง มณฑลยูนนาน ประเทศจีน ได้มีการระเบิดอาคาร 15 หลัง พังราบลงมาในเวลาไล่เลี่ยกัน ทำเอางฝุ่นควันคล้ายเมฆมหึมาพุ่งขึ้นไปในอากาศก่อนปกคลุมไปทั่วบริเวณ  

    รายงานระบุว่า อาคารระฟ้า 15 หลังนี้ อยู่ในโครงการที่พักอาศัยและอาคารพาณิชย์ "คุนหมิง ลี่หยาง สตาร์ ซิตี้ เฟสสอง"  เริ่มก่อสร้างในปี 2554 บนที่ดิน 4 ผืน รวมพื้นที่ 2.3 แสนตารางเมตร แต่เจ้าของสร้างสำเร็จได้เพียง 4 อาคาร 

    ขณะที่อาคาร อีก 15 หลัง ระงับก่อสร้างมาตั้งแต่ปี 2556  เนื่องจากมีปัญหาด้านการเงิน ผู้รับผิดชอบในโครงการนั้นประสบปัญหาล้มละลาย ทำให้ไม่สามารถทำโครงการให้เสร็จได้ตามเวลา

    เมื่อระยะเวลาผ่านไปมากขึ้นเรื่อยๆ ไม่มีท่าทีว่าจะเสร็จ ทางการท้องถิ่นจึงตัดสินใจระเบิดทำลายให้สิ้น เพราะถูกทิ้งร้างมานาน ประกอบกับน้ำฝนทะลักเข้าชั้นใต้ดินในช่วงฤดูฝน ทำให้ฐานรากชุ่มน้ำมาเป็นเวลานาน คุณภาพอาคารเสื่อมโทรมและไม่ปลอดภัยต่อการสร้างต่อ นอกจากนี้อาจส่งผลทำให้ประชาชนได้รับอันตรายได้

    ทั้งนี้วัดจากพื้นที่ใช้สอยทุกชั้นของอาคารทั้งหมด กับจำนวนอาคาร คาดว่าครั้งนี้เป็นการทำลายอาคารครั้งใหญ่สุดในคราวเดียวในประเทศจีน การเตรียมการใช้เวลา 4 วัน รวมถึงอพยพประชาชนราว 5,630 คนจาก 1,998 ครัวเรือน 

    โดยที่อาคารแต่ละหลัง ที่ยังสร้างไม่เสร็จ ถูกระเบิดพร้อมกันและค่อยๆ ถล่มลงมาทีละหลัง ทำให้อาคารในบริเวณใกล้เคียงรู้สึกถึงแรงสั่นสะเทือนเทียบเท่ากับแผ่นดินไหว ซึ่งในแต่ละอาคารไม่ได้พังลงมาแบบสมบูรณ์ แต่ผู้เชี่ยวชาญเผยว่า ไม่จำเป็นต้องทำการระเบิดซ้ำ แค่ใช้เครื่องจักรทำลายเพิ่ม และเก็บกวาดก็น่าจะเรียบร้อยแล้ว 

ชมคลิป  ตึก 15 หลัง พังราบใน 45 วินาที

คลิปเปิดไม่ออก >>> กดตรงนี้ คลิก <<<

ที่มา: GuanlianNews, thepaper