ตาวัย 80 ร่ำไห้ ขายข้าวแกงไม่ได้ ไม่มีลูกค้าเข้าร้าน ทั้งตัวเหลือเงิน 4 บาท แต่ชีวิตเปลี่ยนชั่วข้ามคืน
คอมเมนต์:
ซึ้งใจไปทั่วโลกเลยทีเดียว สำหรับเรื่องราวของคุณตาวัย 80 ปี เจ้าของร้านข้าวแกงในอินเดีย ร่ำไห้สุดกลั้น ไม่มีลูกค้า เพราะพิษสถานการณ์ปัจจุบัน จนทั้งเนื้อทั้งตัวเหลือเงินเพียง 4 บาท ประทังชีวิต ก่อนเจอบล็อกเกอร์คนดัง ชีวิตพลิก จากหน้ามือเป็นหลังมือ กลับมาตั้งตัวได้อีกครั้ง
ย้อนเรื่องราว กลับไปในปี 2533 กานตะ ประสาท และ ปัฐมี เทวี ภรรยาของเขา เปิดร้านอาหารข้างทางเล็ก ๆ ริมถนน ในย่านมัลวิยานคร ทางตอนใต้ของกรุงนิวเดลี โดยอาหารที่ขายเป็นแกงทั่วไปสไตล์อินเดียเหนือ เสิร์ฟกับข้าวและแป้งนาน หรือโรตี ขายในราคาถูก ทำสดใหม่ถูกวัน และมีรสชาติอร่อย ตลอดระยะเวลาที่ผ่านมา ทั้งสองมีรายได้พอประทังชีวิตเท่านั้น
Sponsored Ad
คุณตาคานตะ เจ้าของร้านขายข้าวแกง ร่ำไห้ หลังไม่มีลูกค้า ขายอาหารไม่ได้
แต่ผลกระทบของ โ ค วิ ด ทำเอาคนเดือดร้อนไปทั่วโลก รวมถึงคุณตารายนี้ก็เช่นกัน ครั้งผลกระทบนี้มาเยือนถึงมาถึงอินเดีย รายได้ของร้านคุณตาก็ถดถอยลงมาก บางวันแทบไม่มีลูกค้า อาหารที่ทำไว้ก็เหลือทิ้ง จนมาถึงจุดที่สองตายายตัดสินใจว่ามันคงถึงเวลาปิดกิจการลงแล้ว
Sponsored Ad
แต่ต่อมาคลิปวิดีโอ สะอื้นร่ำไห้ของคุณตา เพียงคลิปเดียว ได้ก่อให้เกิดพลังโซเชียลที่ยิ่งใหญ่ และทำให้ชีวิตตายายเปลี่ยนไป จากหน้ามือเป็นหลังมือ โดยเรื่องราวของทั้งคู่ ถูกหยิบยกมารายงาน ผ่านสำนักข่าวบีบีซี ร้านอาหารดังกล่าวมีชื่อว่า ร้าน Baba ka dhaba คุณตาคานตะ เจ้าของร้าน อายุ 80 ปี แล้ว แต่ยังคงตั้งใจ ใส่ใจลงไปในทุกๆ เมนูอาหาร ซึ่งขายในราคาไม่เกินจานละ 50 รูปี หรือประมาณ 20 บาท เท่านั้น
ต่อมา บล็อกเกอร์อาหาร นามว่า เการาภ วสัน เหมือนชะตาฟ้าลิขิตเขาได้เดินผ่านมาเจอร้านของลุงพอดี จึงเดินเข้าไปถามไถ่ ซึ่งลุงคานตะเล่าว่า กิจการตน สามารถพอประคองตัวไปได้มาตลอด 30 ปี โดยเริ่มเปิดขายตั้งแต่เวลาเช้า 6.30 น.
Sponsored Ad
ลูกค้าส่วนใหญ่เป็นพนักงานออฟฟิศและคนงานใกล้เคียง แต่วิกฤตทำให้ทุกสิ่งทุกอย่างเปลี่ยนไป ผู้คนมากมายตกงาน และหลายคนต้องกักตัวอยู่ที่บ้าน ทำให้รายได้หดหายไปมาก บางวันขายไม่ได้เลย เมื่อคุณตาถูกถามว่าวันนี้ขายได้เท่าไหร่ คุณตาคานตะก็ไม่ได้พูดอะไร เพียงแต่ชูธนบัตร 10 รูปี หรือประมาณ 4 บาท ขึ้นมา พร้อมกับน้ำตาที่ไหลอาบแก้ม
เการาภ บล็อกเกอร์อาหาร ได้โพสต์คลิปนี้ลงแชนแนลของเขา พร้อมขอให้ทุกคนมาช่วยเหลือสองตายาย โดยต่อมา วสุนทรา ชาร์มา สาวนักเคลื่อนไหวทางการเมือง ผู้มีคนติดตามมากกว่า 10,000 คน พบเห็นคลิปที่คุณตาคานตะร้องไห้ขณะตักแกง แล้วรู้สึกสงสารจับใจ เธอจึงนำคลิปไปโพสต์ในทวิตเตอร์ ระบุว่าคลิปนี้ทำให้เธอหัวใจสลาย หากใครมีโอกาศผ่านไปแถวย่านมัลวิยานคร อยากให้ช่วยแวะอุดหนุนร้าน Baba ka dhaba
Sponsored Ad
คลิปนี้ซึ่งเป็นภาพขณะคุณตากำลังร้องไห้ ถูกแชร์ไปทั่วโลก มีคนดูกว่า 4.4 ล้านครั้ง มันถูกรีทวีตไปกว่า 57,600 ครั้ง เหล่าคนดังในวงการบอลลีวู้ดของอินเดียหลายคน รวมไปถึงเหล่านักกีฬาชื่อดัง ทีมคริกเก็ตชื่อดัง และนักการเมืองทั้งถิ่น ได้ช่วยกันแชร์คลิปนี้ จนไวรัลไปทั่วอินเทอร์เน็ตของอินเดีย และออกข่าวหลายสำนัก
พรรคประชาชนอินเดีย เดินทางมอบเงินช่วยเหลือ
Sponsored Ad
หลังจากเรื่องราวได้ถูกเผยแพร่ออกไป แอปฯสั่งอาหารชื่อดังของอินเดีย ก็ได้ประกาศว่า พวกเขาได้เพิ่มร้าน Baba ka dhaba ของเข้ามาในแอปฯ โดยไม่คิดค่าธรรมเนียมใด ๆ ทั้งสิ้น เพื่อให้ผู้คนได้รับรู้ถึงความลำบากของสองตายาย และกระตุ้นให้ช่วยเหลือพวกเขา
ในความสิ้นหวังนั้น คุณตาคานตะ กับ คุณยายปัฐมี ก็ได้พบกับสิ่งที่ไม่คาดคิด โดยลูกค้าจำนวนมาก หลั่งไหลเข้ามาซื้อ ต่อคิวยาวไปจนล้นถนน
Sponsored Ad
นอกจากนี้แล้ว เการาภ บล็อกเกอร์ที่พบร้านของตายาย ยังได้เปิดบริจาคระดมทุนหาเงินช่วยซ่อมปรับปรุงร้านที่เก่าทรุดโทรมมากให้คุณตา โดยเขาสามารถระดมทุนได้ 2,700 ดอลลาร์สหรัฐ หรือประมาณ 83,890 บาท และแล้ว จากภาพชายชราที่ร่ำไห้ ก็กลายเป็นภาพชายชราที่ยิ้มสดใสออกมาจากใจ โดย คุณตาคานตะบอกกับสื่อท้องถิ่นว่า ตนเองไม่คาดคิดว่าจะเกิดเรื่องแบบนี้ เขาซาบซึ้งมากจริง ๆ
Sponsored Ad
เรียกได้ว่าเป็นพลังโซเชียลจริงๆ จากเมื่อวานที่ขายอาหารไม่ได้สักจาน มาวันนี้ขายหมดเกลี้ยงทุกหม้อ ทุกเมนู คุณตาขอบคุณ เการาภและทุกคนจากหัวใจ ที่สนใจร้านเล็ก ๆ นี้ และเการาภเองก็รู้สึกได้ว่าคนทั้งประเทศอินเดียมารวมใจอยู่ที่ร้านนี้ นับว่าว่าเป็นพลังโซเชียลที่ส่งผลกับคุณตาคานตะโดยตรง เรียกรอยยิ้มให้กับเจ้าของร้านวัย 80 คนนี้ได้อีกครั้ง
ชมคลิป
This video completely broke my heart. Dilli waalon please please go eat at बाबा का ढाबा in Malviya Nagar if you get a chance 😢💔 #SupportLocal pic.twitter.com/5B6yEh3k2H
— Vasundhara Tankha Sharma (@VasundharaTankh) October 7, 2020
คลิปเปิดไม่ออก >>>>> กดตรงนี้ คลิ๊ก !!!! <<<<<
ที่มา : Vasundhara Tankha Sharma